วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ภูเขาหิมะ "เหม่ยลี่" หรือ "คาวากาโป"

ภูเขาหิมะ "เหม่ยลี่" เริ่มต้นตั้งแต่เมือง "เต๋อชิง" ยาวไปยังเขตทิเบต มียอดเขาสูงทั้งหมด 13 ยอด ได้ถูกขนานนามโดยชาวทิเบตยุคเก่าว่า " 13 โอรสสวรรค์"












ชาวพื้นเมืองยังได้สร้างเจดีย์ 13 ยอด เพื่อสักการะบูชายอดเขาต่างๆไว้ที่ชานเมืองเต๋อชิงอีกด้วย




ใน 13 ยอดเขาของโอรสสววรค์นั้น มีอยู่ 8 ยอด ที่เป็นที่สักการะและเทิดทูลให้เป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์สูงสุด และที่สุดใน
แปดภูเขาเทพนั้น มีชื่อว่า "เหม่ยลี่"
และก็มีการสร้างเจดีย์เพื่อบูชายอดเขาเทพทั้ง 8 เช่นกัน





ยอดเขา "เหม่ยลี่" (สตรีผู้งดงาม) หรือ "คาวากาโป" คือสุดยอดภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ชนชาวทิเบตนับถือเปรียบประหนึ่งเทพเจ้า มียอดที่สูงสุดอยู่ที่ 7,645 MSL (เมตร เหนือระดับน้ำทะเล) ในช่วงความสูงประมาณ 6,000 MSL.ของยอดเขาแห่งนี้ มีธารน้ำแข็ง "หมิงหย่ง" ที่มีความกว้างใหญ่และสวยงาม แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อย






อีก 7 ภูเขาเทพ ก็มีความสูงไม่ต่างกันมากนัก และต่างก็มีชื่อศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตามความเชื่อในแบบพุทธศาสนานิกายทิเบต เช่น ยอดเขา "เทพธิดา" มียอดสูง 6,054 MSL.


ยอดเขา "เทพธิดา"




ยอดเขา "เศียรพระพุทธเจ้า" มียอดสูง 5,470 MSL.
ขวามือคือ ยอดเขา "เศียรพระพุทธเจ้า"
การมาชมภูเขาหิมะ "เหม่ยลี่" แห่งนี้ ต้องอาศัยโชคค่อนข้างมาก น้อยครั้งเหลือเกินที่นางจะยอมเผยเรือนร่างภายใต้ชุดผ้าบางขาวราวปุยหิมะอย่างสง่างาม อวดโฉมให้ชาวโลกได้ตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น
ผมได้มีโอกาสได้สัมผัสความงามที่ยิ่งใหญ่แบบเต็มๆตาในการเดินทางมาเยือนในครั้งที่ 2 เมื่อปี 2013
เมื่อปี ค.ศ.1994 ได้มีกลุ่มรายการสารคดีชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น รวมทีมงานและไกด์ท้องถิ่นรวม 17 ชีวิต ได้เข้าพื้นที่เพื่อจะขึ้นไปสำรวจบนยอดเขา โดยใช้เส้นทางธารน้ำแข็งหมิงหย่งเป็นทางเริ่มต้น และกระทั่งปัจจุบันนี้ ทีมดังกล่าวก็ยังไม่มีใครได้กลับลงมา จึงจัดเป็นยอดเขาที่ยังไม่มีมนุษย์คนไหนขึ้นไปพิชิตได้แม้แต่คนเดียว
และนักเดินทางท่องเที่ยวแนวภูเขาจากทั่วโลก ได้ร่วมโหวตให้เทือกเขาแห่งนี้ เป็นเทือกเขาที่สวยงามที่สุดในโลก!!!!
คณะเราขับรถกันมาจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้าสปป.ลาว ผ่าน อ.ห้วยทราย หลวงน้ำทา ข้ามด่านลาว-จีน ที่บ่อเต็น เมืองล่า สิบสองปันนา หลินชาง ต้า ลี่เจียง จงเตี้ยน แชงกรีล่า เต๋อชิง เฟ่ยไหล ระยะถึงตรงนี้จากเชียงราย-เฟ่ยไหลประมาณ 1,650 กม. #caravanthailandtravel #portodiscovery








วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วัดลามะเพลกอ (Palcho Monastery) เมือง Gyangze เขตปกครองตนเองทิเบต


วัดลามะเก่าแก่กว่า 800 ปี แห่งเมือง Gyangze วัดเพลกอ (Palcho Monastery)
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแนวเขตชายแดน 3 ประเทศคือ ทิเบต ภูฏาน และเนปาล (อยู่ห่างจากชายแดนประเทศภูฏานเพียง 60 กม.) ในอดีต เมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าค้าขายที่คึกคักใหญ่โตและสำคัญมาก
ในช่วงปลายๆยุค50 เคยถูกปกครองโดยชาวอังกฤษ ก่อนที่จีนจะมารวบลัดกินหัวกินหางไปในช่วงกลางยุค 60
วัดแห่งนี้ มีป้อมปราการสร้างพาดบนภูเขารายรอบตัววัดทั้งวัด นี่จึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วัดนี้รอดพ้นจากการทำลายล้างจากชาวจีนไปได้มั้ง
ใจกลางวัด มีสถูปมัณฑาลาสูงตระหง่าน มีรูปสัญลักษณ์ดวงตราศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปสู่การปลดปล่อยวิญญาณให้เป็นอิสระ เป็นแบบเดียวกับที่เมืองกาฎมาณฑุ ประเทศเนปาล
วัดนี้ยังเป็นที่เก็บวัตถุทางศาสนาล้ำค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์คำสอนโบราญมากมาย หรือแผ่นหนังจามรีจารึกภาพพระขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล ภาพเขียนฝาผนังลายวิจิตรสวยงามที่ผ่านการบูรณะโดยชนรุ่นหลัง ที่ยังคงเค้าโครงแบบต้นฉบับไว้ได้อย่างสวยงาม










ขับรถเล่นที่ทิเบต

ขับรถเล่นที่ทิเบต ขบวนคาราวานเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ราบลุ่มเจ้าพระยา เลาะตะลุยป่าเขา ผ่านเมืองลาว เข้าจีนไปยาวๆ ฝ่าแนวเขาหิมาลัยไปทะลุหลังคา...